<description>&lt;p&gt;&lt;strong&gt;ช่วงไต่ตามทาง: &lt;/strong&gt;เห็นตนดีกว่าผู้อื่น&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- คุณแชมป์ ได้ฟังรายการธรรมะรับอรุณประมาณ 1 เดือน สังเกตเห็นทิฏฐิของตนว่า ชอบเพ่งโทษผู้อื่น เห็นว่าตนดีกว่าผู้อื่น พูดไม่รักษาน้ำใจผู้อื่น จิตใจแข็งกระด้าง&lt;/p&gt;&lt;p&gt;-&amp;nbsp;หลังจากได้ฟังธรรมะจากหลายช่องทาง หลายครูบาอาจารย์ ทำให้เกิดความเข้าใจ เกิดปัญญา จิตใจนุ่มนวลลง มีเมตตากรุณา มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- การฟังธรรมะ ทำให้เกิดการพัฒนาปรับปรุงภายในจิตของตนเองได้ ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตน ผู้อื่น และทั้งสองฝ่าย&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;&lt;strong&gt;ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ:&lt;/strong&gt; “การระวังความคิด"&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;การระวังความคิด&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- แม้อยู่คนเดียวก็ต้องระวังความคิด&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- การยกข้ออ้าง สร้างเหตุผล ตำหนิคนรอบข้าง โทษทุกคนยกเว้นตัวเอง มีทัศนคติลบต่อสิ่งต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้ระวังความคิด&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- การปรุงแต่งมี 3 ทาง คือ ทางกาย วาจา ใจ&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;การพัฒนา-อุปสรรค&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- การพัฒนามาคู่กับอุปสรรค&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- การพัฒนาอยู่ตรงไหน อุปสรรคอยู่ตรงนั้น เช่น มีบางสิ่งเข้ามาทำให้หลุดออกจากมรรค ทำให้รู้ว่าเดินตามมรรคอยู่หรือไม่&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- จะรู้ถึงความสุขได้ ต้องผ่านทุกข์มาก่อน ต้องเห็นสิ่งที่ตรงข้ามกัน&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- จึงต้องมีการ “พัฒนาทักษะ” เพื่อให้เกิดความสำเร็จ (=ภาวนา) โดยดูวิธีการจากคนที่ทำสำเร็จมาก่อนแล้วเอามาใช้เป็นแผนในการพัฒนาของเรา (การกระทำโดยแยบคาย)&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;ความคิดโดยแยบคาย&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ความคิดโดยแยบคาย (โยนิโสนมนสิการ = การทำในใจด้วยปัญญาอันแยบคาย)&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ทุกความคิดไม่ใช่ว่าดีหมดหรือเสียหมด&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ความคิดที่ดี = ความคิดที่เกิดประโยชน์โดยแยบคาย&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ความคิดไม่ดี = ความคิดที่บั่นทอนความแยบคาย ให้สูญเสียกำลังใจ&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;อิทธิบาท 4 กับ การระวังความคิด&lt;/p&gt;&lt;p&gt;ฉันทะ = ความคิดที่ทำให้เกิดความมั่นใจว่าต้องทำตามเป้าหมายนั้นได้&lt;/p&gt;&lt;p&gt;วิริยะ = ความคิดที่ทำให้เกิดความเพียร กำจัดสิ่งที่เป็นอกุศลในการทำเป้าหมายนั้น&lt;/p&gt;&lt;p&gt;จิตตะ = ความคิดใส่ใจในเป้าหมาย, เหนี่ยวนำความสำเร็จที่ต้องการให้เกิดขึ้นมา&lt;/p&gt;&lt;p&gt;วิมังสา = ความคิดที่จะพัฒนาปรับปรุงเป้าหมายให้ดีขึ้น&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;&lt;strong&gt;โดยสรุป:&lt;/strong&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- การระวังความคิด ต้องระวังทั้งสองด้าน ทั้งความคิดด้านลบและความคิดด้านบวก&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ให้นำหลักอิทธิบาท 4 มาพัฒนาวิธีการอันแยบคายที่จะให้เป้าหมายเกิดความสำเร็จขึ้นมาและลงมือทำ&lt;/p&gt;&lt;hr&gt;&lt;p style='color:grey; font-size:0.75em;'&gt; Hosted on Acast. See &lt;a style='color:grey;' target='_blank' rel='noopener noreferrer' href='https://acast.com/privacy'&gt;acast.com/privacy&lt;/a&gt; for more information.&lt;/p&gt;</description>

6851-1u

ช่วงไต่ตามทาง: เห็นตนดีกว่าผู้อื่น- คุณแชมป์ ได้ฟังรายการธรรมะรับอรุณประมาณ 1 เดือน สังเกตเห็นทิฏฐิของตนว่า ชอบเพ่งโทษผู้อื่น เห็นว่าตนดีกว่าผู้อื่น พูดไม่รักษาน้ำใจผู้อื่น จิตใจแข็งกระด้าง-&nbsp;หลังจากได้ฟังธรรมะจากหลายช่องทาง หลายครูบาอาจารย์ ทำให้เกิดความเข้าใจ เกิดปัญญา จิตใจนุ่มนวลลง มีเมตตากรุณา มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น&nbsp;- การฟังธรรมะ ทำให้เกิดการพัฒนาปรับปรุงภายในจิตของตนเองได้ ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตน ผู้อื่น และทั้งสองฝ่าย ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ: “การระวังความคิด"- อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา การระวังความคิด- แม้อยู่คนเดียวก็ต้องระวังความคิด- การยกข้ออ้าง สร้างเหตุผล ตำหนิคนรอบข้าง โทษทุกคนยกเว้นตัวเอง มีทัศนคติลบต่อสิ่งต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้ระวังความคิด- การปรุงแต่งมี 3 ทาง คือ ทางกาย วาจา ใจ การพัฒนา-อุปสรรค- การพัฒนามาคู่กับอุปสรรค- การพัฒนาอยู่ตรงไหน อุปสรรคอยู่ตรงนั้น เช่น มีบางสิ่งเข้ามาทำให้หลุดออกจากมรรค ทำให้รู้ว่าเดินตามมรรคอยู่หรือไม่- จะรู้ถึงความสุขได้ ต้องผ่านทุกข์มาก่อน ต้องเห็นสิ่งที่ตรงข้ามกัน&nbsp;- จึงต้องมีการ “พัฒนาทักษะ” เพื่อให้เกิดความสำเร็จ (=ภาวนา) โดยดูวิธีการจากคนที่ทำสำเร็จมาก่อนแล้วเอามาใช้เป็นแผนในการพัฒนาของเรา (การกระทำโดยแยบคาย) ความคิดโดยแยบคาย- ความคิดโดยแยบคาย (โยนิโสนมนสิการ = การทำในใจด้วยปัญญาอันแยบคาย)&nbsp;- ทุกความคิดไม่ใช่ว่าดีหมดหรือเสียหมด&nbsp;- ความคิดที่ดี = ความคิดที่เกิดประโยชน์โดยแยบคาย- ความคิดไม่ดี = ความคิดที่บั่นทอนความแยบคาย ให้สูญเสียกำลังใจ อิทธิบาท 4 กับ การระวังความคิดฉันทะ = ความคิดที่ทำให้เกิดความมั่นใจว่าต้องทำตามเป้าหมายนั้นได้วิริยะ = ความคิดที่ทำให้เกิดความเพียร กำจัดสิ่งที่เป็นอกุศลในการทำเป้าหมายนั้นจิตตะ = ความคิดใส่ใจในเป้าหมาย, เหนี่ยวนำความสำเร็จที่ต้องการให้เกิดขึ้นมาวิมังสา = ความคิดที่จะพัฒนาปรับปรุงเป้าหมายให้ดีขึ้น โดยสรุป:- การระวังความคิด ต้องระวังทั้งสองด้าน ทั้งความคิดด้านลบและความคิดด้านบวก&nbsp;- ให้นำหลักอิทธิบาท 4 มาพัฒนาวิธีการอันแยบคายที่จะให้เป้าหมายเกิดความสำเร็จขึ้นมาและลงมือทำ<hr> Hosted on Acast. See <a style='color:grey;' target='_blank' rel='noopener noreferrer' href='https://acast.com/privacy'>acast.com/privacy</a> for more information.

การระวังความคิด [6851-1u]

<description>&lt;p&gt;Q1: ทำบุญโดยไม่เบียดเบียนตน&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: การให้ทานต้องฉลาด&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;1. ต้องไม่เบียดเบียนตนเอง ผู้อื่น และทั้งสองฝ่าย&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ไม่เบียดเบียนตนเอง = ตนเองต้องไม่อดอยาก ลำบาก, ต้องไม่สร้างอกุศล&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ไม่เบียดเบียนผู้อื่น = กู้ยืม บังคับเอาเงินจากคนอื่นมา&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ไม่เบียดเบียนทั้งสองฝ่าย = ตนเองไม่ได้รับการเบียดเบียน และไม่ทำอกุศล&lt;/p&gt;&lt;p&gt;2. อย่าเอากิเลสเป็นตัวตั้ง – ให้มั่นใจในการทำความดี ไม่สั่นคลอนตามคำพูดคนอื่น&lt;/p&gt;&lt;p&gt;3. แบ่งงบประมาณไว้สำหรับการช่วยเหลือผู้อื่นและการทำบุญกับเนื้อนาบุญ&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;Q2: ครอบครัวเห็นต่างในการทำบุญ&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: เกิดจากการที่มีศรัทธาไม่เสมอกันและทิฎฐิไม่ตรงกัน&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ควรปรับศรัทธาและทิฏฐิของคนในครอบครัวให้เสมอกัน จึงจะอยู่กันได้อย่างเป็นสุข&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- โดยต้องใช้ปัญญา เวลา ข้อมูล ค่อย ๆ กล่อมเกลา&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;Q3: จำนวนเงินทำบุญ&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: ถ้าศรัทธาเท่ากัน แต่ความปราณีตของทานไม่เท่ากัน บุญที่ได้รับจะเท่ากัน แต่ผลที่จะได้รับจะไม่เหมือนกัน แสงที่ปรากฏเมื่อเป็นเทวดาจะสว่างไม่เท่ากัน&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;Q4: ใส่บาตรด้วยอาหารที่ทำเองกับอาหารที่ซื้อ&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: ถ้าศรัทธาเท่ากัน บุญที่ได้รับจะเท่ากัน แต่ผลของทานที่จะได้รับจะไม่เหมือนกัน ตามความปราณีตของทาน&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;Q5: การระบุความประสงค์ในใบปวารณา&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: มีศรัทธาตรงไหนให้ทำตรงนั้น ถ้าไม่ศรัทธาตรงไหนก็อย่าไปทำตรงนั้น เพราะบุญที่เกิดจากการให้ทานจะน้อย&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ให้ช่วยเหลือในจุดที่ถูกต้อง อาจสอบถามก่อน แล้วค่อยทำบุญสนับสนุนเพื่อการนั้น&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;Q6: นรกสวรรค์มีจริงหรือไม่&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: ลำพังความเชื่อแล้วจะเกิดปัญญามันไม่ได้&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;-&amp;nbsp;ต้องใช้ปัญญาเป็นเครื่องมือในการเข้าถึง โดยอาศัยความเพียร หาจุดสมดุล คือ สติและสมาธิ หากเข้าถึงจุดที่ฉันจะไม่ไปนรกแล้ว ก็จะรู้ว่านรกสวรรค์มีจริง เป็นการรู้ด้วยญาน ไม่ใช่ศรัทธา นั่นคือ โสดาบัน&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;Q7: ล้างบาปด้วยการบวช&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: สิ้นกรรม ไม่เท่ากับ การล้างบาป&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- บุญมี กรรมดีมี กรรมชั่วมี ให้ผล (วิบาก) เป็นความสุขและความทุกข์ ให้ผลในหลายรูปแบบ สุขทุกข์จึงวนอยู่&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- การบวช = เป็นการทำกรรมดี สามารถนำไปสู่การสิ้นกรรมได้&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- การสิ้นกรรม = อยู่เหนือสุข เหนือทุกข์&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;Q8: เกิดใหม่ VS ไม่เกิดอีก&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: ถ้าต้องเกิดใหม่ การเกิดในที่ดีย่อมดีกว่าการเกิดในที่ไม่ดี แต่การเกิดไม่ว่าที่ใด ก็ยังมีทุกข์อยู่&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- การไม่เกิดอีก (นิพพาน) จึงดีที่สุด เพราะอยู่เหนือสุข เหนือทุกข์&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;Q9: สมาทานศีล&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: การสมาทานศีล = ความตั้งใจที่จะกระทำความเป็นปกติ 5 ประการ&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ตลอดชีวิต สมาทานศีลครั้งเดียวก็เพียงพอ&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ศีล ไม่ต้องขอจากพระ แต่อยู่ที่การกระทำของเรา หากเรารักษาศีลได้ เราก็ได้ศีลเลย&lt;/p&gt;&lt;hr&gt;&lt;p style='color:grey; font-size:0.75em;'&gt; Hosted on Acast. See &lt;a style='color:grey;' target='_blank' rel='noopener noreferrer' href='https://acast.com/privacy'&gt;acast.com/privacy&lt;/a&gt; for more information.&lt;/p&gt;</description>

6850-1u

Q1: ทำบุญโดยไม่เบียดเบียนตนA: การให้ทานต้องฉลาด&nbsp;1. ต้องไม่เบียดเบียนตนเอง ผู้อื่น และทั้งสองฝ่าย- ไม่เบียดเบียนตนเอง = ตนเองต้องไม่อดอยาก ลำบาก, ต้องไม่สร้างอกุศล- ไม่เบียดเบียนผู้อื่น = กู้ยืม บังคับเอาเงินจากคนอื่นมา- ไม่เบียดเบียนทั้งสองฝ่าย = ตนเองไม่ได้รับการเบียดเบียน และไม่ทำอกุศล2. อย่าเอากิเลสเป็นตัวตั้ง – ให้มั่นใจในการทำความดี ไม่สั่นคลอนตามคำพูดคนอื่น3. แบ่งงบประมาณไว้สำหรับการช่วยเหลือผู้อื่นและการทำบุญกับเนื้อนาบุญ Q2: ครอบครัวเห็นต่างในการทำบุญA: เกิดจากการที่มีศรัทธาไม่เสมอกันและทิฎฐิไม่ตรงกัน- ควรปรับศรัทธาและทิฏฐิของคนในครอบครัวให้เสมอกัน จึงจะอยู่กันได้อย่างเป็นสุข- โดยต้องใช้ปัญญา เวลา ข้อมูล ค่อย ๆ กล่อมเกลา Q3: จำนวนเงินทำบุญA: ถ้าศรัทธาเท่ากัน แต่ความปราณีตของทานไม่เท่ากัน บุญที่ได้รับจะเท่ากัน แต่ผลที่จะได้รับจะไม่เหมือนกัน แสงที่ปรากฏเมื่อเป็นเทวดาจะสว่างไม่เท่ากัน&nbsp; Q4: ใส่บาตรด้วยอาหารที่ทำเองกับอาหารที่ซื้อA: ถ้าศรัทธาเท่ากัน บุญที่ได้รับจะเท่ากัน แต่ผลของทานที่จะได้รับจะไม่เหมือนกัน ตามความปราณีตของทาน Q5: การระบุความประสงค์ในใบปวารณาA: มีศรัทธาตรงไหนให้ทำตรงนั้น ถ้าไม่ศรัทธาตรงไหนก็อย่าไปทำตรงนั้น เพราะบุญที่เกิดจากการให้ทานจะน้อย- ให้ช่วยเหลือในจุดที่ถูกต้อง อาจสอบถามก่อน แล้วค่อยทำบุญสนับสนุนเพื่อการนั้น&nbsp; Q6: นรกสวรรค์มีจริงหรือไม่A: ลำพังความเชื่อแล้วจะเกิดปัญญามันไม่ได้&nbsp;-&nbsp;ต้องใช้ปัญญาเป็นเครื่องมือในการเข้าถึง โดยอาศัยความเพียร หาจุดสมดุล คือ สติและสมาธิ หากเข้าถึงจุดที่ฉันจะไม่ไปนรกแล้ว ก็จะรู้ว่านรกสวรรค์มีจริง เป็นการรู้ด้วยญาน ไม่ใช่ศรัทธา นั่นคือ โสดาบัน Q7: ล้างบาปด้วยการบวชA: สิ้นกรรม ไม่เท่ากับ การล้างบาป- บุญมี กรรมดีมี กรรมชั่วมี ให้ผล (วิบาก) เป็นความสุขและความทุกข์ ให้ผลในหลายรูปแบบ สุขทุกข์จึงวนอยู่- การบวช = เป็นการทำกรรมดี สามารถนำไปสู่การสิ้นกรรมได้- การสิ้นกรรม = อยู่เหนือสุข เหนือทุกข์&nbsp; Q8: เกิดใหม่ VS ไม่เกิดอีกA: ถ้าต้องเกิดใหม่ การเกิดในที่ดีย่อมดีกว่าการเกิดในที่ไม่ดี แต่การเกิดไม่ว่าที่ใด ก็ยังมีทุกข์อยู่- การไม่เกิดอีก (นิพพาน) จึงดีที่สุด เพราะอยู่เหนือสุข เหนือทุกข์ Q9: สมาทานศีลA: การสมาทานศีล = ความตั้งใจที่จะกระทำความเป็นปกติ 5 ประการ- ตลอดชีวิต สมาทานศีลครั้งเดียวก็เพียงพอ- ศีล ไม่ต้องขอจากพระ แต่อยู่ที่การกระทำของเรา หากเรารักษาศีลได้ เราก็ได้ศีลเลย<hr> Hosted on Acast. See <a style='color:grey;' target='_blank' rel='noopener noreferrer' href='https://acast.com/privacy'>acast.com/privacy</a> for more information.

ทำบุญโดยไม่เบียดเบียนตน [6850-1u]

<description>&lt;p&gt;&lt;strong&gt;ช่วงไต่ตามทาง: &lt;/strong&gt;Party Girl กับ คนบ้างาน&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ผู้ฟัง 2 ท่าน อายุ 27 ปี และ 35 ปี เป็นเพื่อนกัน คนหนึ่ง เคยชอบไปปาร์ตี้ งานเลี้ยงสังสรรค์ ร้องเพลง ดื่มเหล้า อีกคนหนึ่ง เป็นวิศวกร เงินเดือนหลักแสน สนใจแต่เรื่องงาน ต่อมา ได้ปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ เกิดความคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ใช่ทาง จึงเกิดปัญญา เปลี่ยนเป้าหมายในชีวิต คือ การบรรลุโสดาบันในชาตินี้&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- โสดาบัน = หมายถึง อริยบุคคลขั้นที่ 1ใน 4 ขั้น&amp;nbsp;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- โสดาบัน แปลว่า ผู้ถึงกระแส ไปตามกระแสของมรรค มีจุดหมาย คือ พระนิพพาน&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;&lt;strong&gt;ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ: &lt;/strong&gt;สุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- สุขภาพกาย (รูป) กับ สุขภาพใจ (นาม) ต้องไปด้วยกัน จะดูแลด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ ต้องดูแลทั้งสองส่วนควบคู่กันไป&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;&lt;em&gt;สุขภาพกายดี&amp;nbsp;&lt;/em&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;พระพุทธเจ้าทรงให้แนวทางไว้ดังนี้&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;1) “อาหาร” = 1. กินพืชมากกว่าเนื้อสัตว์ 2. กินเป็นเวลา 3. กินพอประมาณ&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;2) “สถานที่อยู่” = ถ้าอยู่ที่ไหนแล้วกิเลสที่ยังละไม่ได้ ก็ยังละไม่ได้เหมือนเดิม หรือที่ละได้แล้ว ดันกลับมาอีก ก็อยู่ที่นั่นไม่ดี&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;3) “น้ำดื่ม” = ต้องกรองน้ำก่อน ไม่ให้มีตัวสัตว์ ให้น้ำมีความสะอาดเพื่อจะดื่มได้&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;สุขภาพใจดี&lt;/p&gt;&lt;p&gt;ถ้ากายยังไม่ป่วย ต้องรักษาจิตไม่ให้เป็นโรค&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- โรคของจิต คือ กิเลส = ราคะ โทสะ โมหะ&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- “ศีล” = การรักษากายและวาจา เป็นตัวบ่งบอกความไม่มีโรคของจิต ไม่ให้ราคะ โทสะ โมหะ ออกมา ถึงขนาดผิดศีล&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- “สมาธิ” = จะรักษาความสงบ และการไม่มีราคะโทสะโมหะให้มันดีอยู่ได้ เช่น ไม่โกรธถึงขนาดด่าคน จะมีสมาธิได้ต้องมีสติตั้งเอาไว้&amp;nbsp;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- “สติ” = สร้างพลังให้จิตตั้งอยู่ในศีลและสมาธิได้&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- วิธีฝึกสติ = “สติปัฏฐาน 4” (กาย เวทนา จิต ธรรม) หรือง่าย ๆ ก็ใช้ “อาณาปานสติ” ดูลมหายใจ เป็นหนึ่งในอนุสติ 10 ที่ทำให้เกิดสติปัฏฐาน 4 ได้ การมีสติสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อมในทุกอิริยาบถ เรียกว่า “สัมปชัญญะ” ก็จะทำให้เกิดสติปัฏฐาน 4 ได้&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;“ปัญญา” กับ “ธรรมชาติของความเจ็บป่วย”&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ความเจ็บป่วยจะมาถึงอย่างแน่นอน ตอนที่ยังไม่ป่วย จึงต้องมีปัญญา ในการเข้าใจธรรมชาติของความเจ็บป่วยไว้ล่วงหน้า เปรียบเหมือนทหารที่ต้องเตรียมตัวก่อนมีการประกาศสงคราม จึงจะสามารถรักษาบ้านเมืองเอาไว้ได้&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- ธรรมชาติของความเจ็บป่วยมี 6 ประการ ดังนี้&lt;/p&gt;&lt;p&gt;1) เป็นภัยที่แม่ลูกช่วยกันไม่ได้&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;2) เราไม่มีความเป็นใหญ่เฉพาะตนในสิ่งนั้น = เช่น สั่งให้แบ่งเวทนาจากความเจ็บป่วยให้ผู้อื่นไม่ได้ สั่งให้หมอรักษาตนให้หายไม่ได้&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;3) เวทนาจากความเจ็บป่วยเป็นไปตามฐานะ = เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย อาจหายได้หรือระงับได้ ด้วยปีติอันเกิดจากการฟังธรรมะ เช่น กรณีพระคิลิมานนท์ พระวักกลิ พระอัสสชิ พระสารีบุตร เป็นต้น&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;4) เป็นโลกธรรม 8 = เป็นสุข เป็นทุกข์ ที่เกิดขึ้นได้&amp;nbsp;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;5) ต้องมีจิตใจอยู่ด้วยการมีเป้าหมาย = อิทธิบาท 4 ทำให้อายุยืนได้ถึง 120 ปี (1 กัลป์), อิคิไก (ญี่ปุ่น) ความหมายของการมีชีวิตอยู่ ทำตนให้เป็นประโยชน์&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;6) เวลาไปเยี่ยมผู้ป่วย ไม่ควรถามว่า ดีขึ้นหรือยัง แต่ควรถามว่า อดทนได้อยู่ไหม ไปให้กำลังใจ พูดคุยด้วย 5 อย่างข้างต้น ให้ผู้ป่วยเกิดความอาจหาญร่าเริงในธรรม&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;hr&gt;&lt;p style='color:grey; font-size:0.75em;'&gt; Hosted on Acast. See &lt;a style='color:grey;' target='_blank' rel='noopener noreferrer' href='https://acast.com/privacy'&gt;acast.com/privacy&lt;/a&gt; for more information.&lt;/p&gt;</description>

6849-1u

ช่วงไต่ตามทาง: Party Girl กับ คนบ้างาน&nbsp;- ผู้ฟัง 2 ท่าน อายุ 27 ปี และ 35 ปี เป็นเพื่อนกัน คนหนึ่ง เคยชอบไปปาร์ตี้ งานเลี้ยงสังสรรค์ ร้องเพลง ดื่มเหล้า อีกคนหนึ่ง เป็นวิศวกร เงินเดือนหลักแสน สนใจแต่เรื่องงาน ต่อมา ได้ปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ เกิดความคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ใช่ทาง จึงเกิดปัญญา เปลี่ยนเป้าหมายในชีวิต คือ การบรรลุโสดาบันในชาตินี้- โสดาบัน = หมายถึง อริยบุคคลขั้นที่ 1ใน 4 ขั้น&nbsp;&nbsp;- โสดาบัน แปลว่า ผู้ถึงกระแส ไปตามกระแสของมรรค มีจุดหมาย คือ พระนิพพาน&nbsp; ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ: สุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี&nbsp;- สุขภาพกาย (รูป) กับ สุขภาพใจ (นาม) ต้องไปด้วยกัน จะดูแลด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ ต้องดูแลทั้งสองส่วนควบคู่กันไป&nbsp; สุขภาพกายดี&nbsp;พระพุทธเจ้าทรงให้แนวทางไว้ดังนี้&nbsp;1) “อาหาร” = 1. กินพืชมากกว่าเนื้อสัตว์ 2. กินเป็นเวลา 3. กินพอประมาณ&nbsp;2) “สถานที่อยู่” = ถ้าอยู่ที่ไหนแล้วกิเลสที่ยังละไม่ได้ ก็ยังละไม่ได้เหมือนเดิม หรือที่ละได้แล้ว ดันกลับมาอีก ก็อยู่ที่นั่นไม่ดี&nbsp;3) “น้ำดื่ม” = ต้องกรองน้ำก่อน ไม่ให้มีตัวสัตว์ ให้น้ำมีความสะอาดเพื่อจะดื่มได้ สุขภาพใจดีถ้ากายยังไม่ป่วย ต้องรักษาจิตไม่ให้เป็นโรค- โรคของจิต คือ กิเลส = ราคะ โทสะ โมหะ&nbsp;- “ศีล” = การรักษากายและวาจา เป็นตัวบ่งบอกความไม่มีโรคของจิต ไม่ให้ราคะ โทสะ โมหะ ออกมา ถึงขนาดผิดศีล&nbsp;- “สมาธิ” = จะรักษาความสงบ และการไม่มีราคะโทสะโมหะให้มันดีอยู่ได้ เช่น ไม่โกรธถึงขนาดด่าคน จะมีสมาธิได้ต้องมีสติตั้งเอาไว้&nbsp;&nbsp;- “สติ” = สร้างพลังให้จิตตั้งอยู่ในศีลและสมาธิได้&nbsp;- วิธีฝึกสติ = “สติปัฏฐาน 4” (กาย เวทนา จิต ธรรม) หรือง่าย ๆ ก็ใช้ “อาณาปานสติ” ดูลมหายใจ เป็นหนึ่งในอนุสติ 10 ที่ทำให้เกิดสติปัฏฐาน 4 ได้ การมีสติสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อมในทุกอิริยาบถ เรียกว่า “สัมปชัญญะ” ก็จะทำให้เกิดสติปัฏฐาน 4 ได้ “ปัญญา” กับ “ธรรมชาติของความเจ็บป่วย”- ความเจ็บป่วยจะมาถึงอย่างแน่นอน ตอนที่ยังไม่ป่วย จึงต้องมีปัญญา ในการเข้าใจธรรมชาติของความเจ็บป่วยไว้ล่วงหน้า เปรียบเหมือนทหารที่ต้องเตรียมตัวก่อนมีการประกาศสงคราม จึงจะสามารถรักษาบ้านเมืองเอาไว้ได้&nbsp;- ธรรมชาติของความเจ็บป่วยมี 6 ประการ ดังนี้1) เป็นภัยที่แม่ลูกช่วยกันไม่ได้&nbsp;2) เราไม่มีความเป็นใหญ่เฉพาะตนในสิ่งนั้น = เช่น สั่งให้แบ่งเวทนาจากความเจ็บป่วยให้ผู้อื่นไม่ได้ สั่งให้หมอรักษาตนให้หายไม่ได้&nbsp;3) เวทนาจากความเจ็บป่วยเป็นไปตามฐานะ = เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย อาจหายได้หรือระงับได้ ด้วยปีติอันเกิดจากการฟังธรรมะ เช่น กรณีพระคิลิมานนท์ พระวักกลิ พระอัสสชิ พระสารีบุตร เป็นต้น&nbsp;4) เป็นโลกธรรม 8 = เป็นสุข เป็นทุกข์ ที่เกิดขึ้นได้&nbsp;&nbsp;5) ต้องมีจิตใจอยู่ด้วยการมีเป้าหมาย = อิทธิบาท 4 ทำให้อายุยืนได้ถึง 120 ปี (1 กัลป์), อิคิไก (ญี่ปุ่น) ความหมายของการมีชีวิตอยู่ ทำตนให้เป็นประโยชน์&nbsp;6) เวลาไปเยี่ยมผู้ป่วย ไม่ควรถามว่า ดีขึ้นหรือยัง แต่ควรถามว่า อดทนได้อยู่ไหม ไปให้กำลังใจ พูดคุยด้วย 5 อย่างข้างต้น ให้ผู้ป่วยเกิดความอาจหาญร่าเริงในธรรม&nbsp;<hr> Hosted on Acast. See <a style='color:grey;' target='_blank' rel='noopener noreferrer' href='https://acast.com/privacy'>acast.com/privacy</a> for more information.

ธรรมชาติของความเจ็บป่วย 6 ประการ [6849-1u]

<description>&lt;p&gt;&lt;strong&gt;Q1: การทำหลายอย่างพร้อมกันให้สำเร็จ&lt;/strong&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: ใช้หลักอิทธิบาท 4 ได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อาจใช้ข้อใดข้อหนึ่งก็ได้ โดยแต่ละข้อจะต้องมีสมาธิ+ธรรมเครื่องปรุงแต่ง (งานที่จะต้องทำ) ประกอบอยู่ด้วย กล่าวคือ ต้องเชื่อมอิทธิบาท 4 ข้อใดข้อหนึ่ง ด้วยสมาธิ เข้ากับงานนั้นๆ&lt;/p&gt;&lt;ul&gt;&lt;li&gt;การทำงานหลายอย่างที่เร่งรีบให้สำเร็จ ต้องมีจิตใจที่มั่นคง (=สมาธิ)&lt;/li&gt;&lt;li&gt;ยิ่งเร่งรีบเท่าไร ก็ต้องใจเย็นมากขึ้นเท่านั้น และใจต้องนิ่ง&lt;/li&gt;&lt;li&gt;หากอารมณ์เสียหรือวุ่นวายใจ นั่นคือ สมาธิหลุดแล้ว ให้สูดหายใจเข้าลึกๆ ตั้งสติขึ้น สมาธิก็จะกลับมา&lt;/li&gt;&lt;li&gt;ดังนั้น ต้องฝึกสมาธิ จะกี่นาทีก็ได้ ที่ไหนก็ได้&lt;/li&gt;&lt;/ul&gt;&lt;p&gt;&lt;br&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;&lt;strong&gt;Q2: Social Media ขัดขวางสมาธิ&lt;/strong&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: ต้องมีที่โคจรที่เหมาะสม = เช่น ปิดโทรศัพท์มือถือ, เอาไปไว้ห้องอื่น, เปิดโหมดห้ามรบกวน, ลบแอพ&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;&lt;strong&gt;Q3: วิธีปล่อยวางเมื่อถูกต่อว่า&lt;/strong&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: ต้องอดทน = แต่ไม่ใช่เก็บกด&lt;/p&gt;&lt;ul&gt;&lt;li&gt;วิธีการปลดปล่อยอารมณ์ที่ไม่ดีที่เจอมาทั้งวัน ทำได้ด้วย&lt;/li&gt;&lt;/ul&gt;&lt;ol&gt;&lt;li&gt;“ทำสมาธิ” ให้จิตนุ่มนวลลง อ่อนเหมาะ เพื่อที่จะให้ความกังวลใจต่างๆที่มี จางคลายไป&lt;/li&gt;&lt;li&gt;“เห็นความไม่เที่ยง” พิจารณาคำด่าว่าจริงหรือไม่, พิจารณาว่าคำด่า คือ เสียง คือ ธาตุลม&lt;/li&gt;&lt;li&gt;“แผ่กรุณา”&lt;/li&gt;&lt;li&gt;“เลือกเอาส่วนดีในคำด่ามาพัฒนา”&lt;/li&gt;&lt;/ol&gt;&lt;p&gt;&lt;br&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;&lt;strong&gt;Q4: ความสุขในงานที่ทำซ้ำๆ หรือไม่มีคนเห็น&lt;/strong&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: การทำงานซ้ำ ๆ เป็นวิริยะแล้ว ถ้ามีสมาธิใส่ลงไปในงานนั้นก็จะไม่เบื่อ จากนั้นให้พัฒนาฉันทะ (ความชอบ) และวิมังสา (ความไต่ตรองเพื่อพัฒนา) งานนั้นก็จะมีความท้าทาย&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;&lt;strong&gt;Q5: เข้าใจคนเห็นต่าง&lt;/strong&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: ใช้พรหมวิหาร 4 โดยนึกถึงเรื่องราวที่มีความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ตั้งไว้ที่ใจเราก่อน แล้วรักษาอารมณ์นั้นไว้ด้วยสติ จากนั้นให้ส่งอารมณ์ที่ติดมากับการนึกถึงเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา นั้น ส่งไปให้บุคคลนั้น&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;&lt;strong&gt;Q6: การใช้จ่ายอย่างพอดี&lt;/strong&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: สมชีวิตา = รายรับต้องท่วมรายจ่าย, รายจ่ายอย่าท่วมรายรับ&lt;/p&gt;&lt;ul&gt;&lt;li&gt;การใช้จ่าย 4 อย่าง&lt;/li&gt;&lt;/ul&gt;&lt;ol&gt;&lt;li&gt;เพื่อการบริโภคในครอบครัว&lt;/li&gt;&lt;li&gt;เก็บไว้เผื่อวันฝนตก (ยามยาก), ลงทุน&lt;/li&gt;&lt;li&gt;สงเคราะห์ผู้อื่น&lt;/li&gt;&lt;li&gt;ทำบุญ&lt;/li&gt;&lt;/ol&gt;&lt;p&gt;&lt;br&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;&lt;strong&gt;Q7: ความสุขที่แท้จริงที่ไม่ใช่สิ่งของ&lt;/strong&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: ความสุขทั่วไป มี 2 ประเภท คือ ความสุขทางกาม และความสุขจากในภายใน&lt;/p&gt;&lt;ul&gt;&lt;li&gt;ความสุขทางกาม = มีคุณน้อย มีโทษมาก&lt;/li&gt;&lt;li&gt;ความสุขจากในภายใน = มีคุณมาก มีโทษน้อย เกิดจากความปล่อยวาง ความสงบ สมาธิ&lt;/li&gt;&lt;li&gt;อย่างไรก็ตาม ความสุขทั่วไปสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ยั่งยืน ยังมีทุกข์แฝงอยู่&lt;/li&gt;&lt;li&gt;ความสุขที่แท้จริง คือ “นิพพาน” อยู่เหนือสุขเหนือทุกข์&lt;/li&gt;&lt;/ul&gt;&lt;p&gt;&lt;br&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;&lt;strong&gt;Q8: AI แทนที่วัด แทนที่พระ&lt;/strong&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;A: AI อาจจะแทนที่ได้บางส่วน เช่น ข้อมูล&lt;/p&gt;&lt;ul&gt;&lt;li&gt;แต่บางอย่าง AI ก็ทำไม่ได้ เช่น การเข้าใจอารมณ์หรือความรู้สึกของคน&lt;/li&gt;&lt;li&gt;ข้อดี ก็ให้เอามาใช้ ข้อเสีย ต้องระมัดระวังไม่ให้บานปลาย&lt;/li&gt;&lt;li&gt;แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไป แต่เราต้องมีเป้าหมายชีวิตในการพ้นทุกข์ (นิพพาน) ให้มีธรรมะในจิตใจ ปรับตัวตามเส้นทางของมรรค ไม่ประมาท ก็จะพ้นทุกข์ได้&lt;/li&gt;&lt;/ul&gt;&lt;hr&gt;&lt;p style='color:grey; font-size:0.75em;'&gt; Hosted on Acast. See &lt;a style='color:grey;' target='_blank' rel='noopener noreferrer' href='https://acast.com/privacy'&gt;acast.com/privacy&lt;/a&gt; for more information.&lt;/p&gt;</description>

6848-1u

Q1: การทำหลายอย่างพร้อมกันให้สำเร็จA: ใช้หลักอิทธิบาท 4 ได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อาจใช้ข้อใดข้อหนึ่งก็ได้ โดยแต่ละข้อจะต้องมีสมาธิ+ธรรมเครื่องปรุงแต่ง (งานที่จะต้องทำ) ประกอบอยู่ด้วย กล่าวคือ ต้องเชื่อมอิทธิบาท 4 ข้อใดข้อหนึ่ง ด้วยสมาธิ เข้ากับงานนั้นๆ<ul><li>การทำงานหลายอย่างที่เร่งรีบให้สำเร็จ ต้องมีจิตใจที่มั่นคง (=สมาธิ)</li><li>ยิ่งเร่งรีบเท่าไร ก็ต้องใจเย็นมากขึ้นเท่านั้น และใจต้องนิ่ง</li><li>หากอารมณ์เสียหรือวุ่นวายใจ นั่นคือ สมาธิหลุดแล้ว ให้สูดหายใจเข้าลึกๆ ตั้งสติขึ้น สมาธิก็จะกลับมา</li><li>ดังนั้น ต้องฝึกสมาธิ จะกี่นาทีก็ได้ ที่ไหนก็ได้</li></ul> Q2: Social Media ขัดขวางสมาธิA: ต้องมีที่โคจรที่เหมาะสม = เช่น ปิดโทรศัพท์มือถือ, เอาไปไว้ห้องอื่น, เปิดโหมดห้ามรบกวน, ลบแอพ Q3: วิธีปล่อยวางเมื่อถูกต่อว่าA: ต้องอดทน = แต่ไม่ใช่เก็บกด<ul><li>วิธีการปลดปล่อยอารมณ์ที่ไม่ดีที่เจอมาทั้งวัน ทำได้ด้วย</li></ul><ol><li>“ทำสมาธิ” ให้จิตนุ่มนวลลง อ่อนเหมาะ เพื่อที่จะให้ความกังวลใจต่างๆที่มี จางคลายไป</li><li>“เห็นความไม่เที่ยง” พิจารณาคำด่าว่าจริงหรือไม่, พิจารณาว่าคำด่า คือ เสียง คือ ธาตุลม</li><li>“แผ่กรุณา”</li><li>“เลือกเอาส่วนดีในคำด่ามาพัฒนา”</li></ol> Q4: ความสุขในงานที่ทำซ้ำๆ หรือไม่มีคนเห็นA: การทำงานซ้ำ ๆ เป็นวิริยะแล้ว ถ้ามีสมาธิใส่ลงไปในงานนั้นก็จะไม่เบื่อ จากนั้นให้พัฒนาฉันทะ (ความชอบ) และวิมังสา (ความไต่ตรองเพื่อพัฒนา) งานนั้นก็จะมีความท้าทาย Q5: เข้าใจคนเห็นต่างA: ใช้พรหมวิหาร 4 โดยนึกถึงเรื่องราวที่มีความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ตั้งไว้ที่ใจเราก่อน แล้วรักษาอารมณ์นั้นไว้ด้วยสติ จากนั้นให้ส่งอารมณ์ที่ติดมากับการนึกถึงเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา นั้น ส่งไปให้บุคคลนั้น Q6: การใช้จ่ายอย่างพอดีA: สมชีวิตา = รายรับต้องท่วมรายจ่าย, รายจ่ายอย่าท่วมรายรับ<ul><li>การใช้จ่าย 4 อย่าง</li></ul><ol><li>เพื่อการบริโภคในครอบครัว</li><li>เก็บไว้เผื่อวันฝนตก (ยามยาก), ลงทุน</li><li>สงเคราะห์ผู้อื่น</li><li>ทำบุญ</li></ol> Q7: ความสุขที่แท้จริงที่ไม่ใช่สิ่งของA: ความสุขทั่วไป มี 2 ประเภท คือ ความสุขทางกาม และความสุขจากในภายใน<ul><li>ความสุขทางกาม = มีคุณน้อย มีโทษมาก</li><li>ความสุขจากในภายใน = มีคุณมาก มีโทษน้อย เกิดจากความปล่อยวาง ความสงบ สมาธิ</li><li>อย่างไรก็ตาม ความสุขทั่วไปสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ยั่งยืน ยังมีทุกข์แฝงอยู่</li><li>ความสุขที่แท้จริง คือ “นิพพาน” อยู่เหนือสุขเหนือทุกข์</li></ul> Q8: AI แทนที่วัด แทนที่พระA: AI อาจจะแทนที่ได้บางส่วน เช่น ข้อมูล<ul><li>แต่บางอย่าง AI ก็ทำไม่ได้ เช่น การเข้าใจอารมณ์หรือความรู้สึกของคน</li><li>ข้อดี ก็ให้เอามาใช้ ข้อเสีย ต้องระมัดระวังไม่ให้บานปลาย</li><li>แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไป แต่เราต้องมีเป้าหมายชีวิตในการพ้นทุกข์ (นิพพาน) ให้มีธรรมะในจิตใจ ปรับตัวตามเส้นทางของมรรค ไม่ประมาท ก็จะพ้นทุกข์ได้</li></ul><hr> Hosted on Acast. See <a style='color:grey;' target='_blank' rel='noopener noreferrer' href='https://acast.com/privacy'>acast.com/privacy</a> for more information.

"งานด่วน" สำเร็จได้ด้วยอิทธิบาท 4 [6848-1u]

<description>&lt;p&gt;&lt;strong&gt;ช่วงไต่ตามทาง: &lt;/strong&gt;หมอนทองวิทยา&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- จากข่าวทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยา ได้มุมมอง 4 เรื่อง&lt;/p&gt;&lt;p&gt;1. แม้ต้นทุนไม่เท่ากัน แต่ก็ประสบความสำเร็จได้ = ความเพียร ความพยายาม ความทุ่มเท ความมีระเบียบวินัยในการฝึกซ้อม ความทุ่มเทของผู้ฝึกสอน ปรากฏผลออกมาเป็นความสำเร็จ เกือบคว้าแชมป์&lt;/p&gt;&lt;p&gt;2. ชัยชนะแห่งความสำเร็จ ได้รับทีละน้อยตั้งแต่เริ่มตื่นนอนมาเพื่อฝึกซ้อม แข่งขันในทุกนัด&lt;/p&gt;&lt;p&gt;3. กัลยาณมิตร = เพื่อนที่นำกัลยาธรรม (ความดี) มาสู่ทีม คือ โค้ช&lt;/p&gt;&lt;p&gt;4. นี่คือเส้นทาง ยังไม่ใช่จุดหมาย = แต่ก็ได้เรียนรู้ระหว่างการเดินทาง ถ้าออกนอกเส้นทาง ก็จะไปไม่ถึงจุดหมาย ถ้าทำตามเส้นทาง ยังไงก็ไปถึงจุดหมาย&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;&lt;strong&gt;ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ:&lt;/strong&gt; หลักธรรมสู่ความสำเร็จ&lt;/p&gt;&lt;p&gt;1. หลักอิทธิบาท 4&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(1) ฉันทะ = ความชอบ ความพอใจ&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(2) วิริยะ = ความเพียร ความกล้า&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(3) จิตตะ = ความเอาใจใส่ ความจดจ่อ&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(4) วิมังสา = ความไตร่ตรอง ความใคร่ครวญ การปรับปรุงในสิ่งที่เป็นข้อผิดพลาด&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- เจริญข้อใดข้อหนึ่งก็ได้ แต่ถ้าครบทำได้ทั้ง 4 ข้อ จะยิ่งดี พลังจะยิ่งมาก&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- แต่ละข้อต้องอาศัย “สมาธิ” เป็นตัวกำกับ ทำให้เรื่องที่ตั้งไว้สำเร็จได้&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;2. หลักเสริมความสำเร็จ 9 ประการ&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(1) ต้องมีสมาธิ = อาศัยฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา จนได้เอกัคคตาจิต จากนั้นให้ประคับประคองให้จิตตั้งไว้ให้ดีในการไม่ให้อกุศลเกิดขึ้น ทำกุศลธรรมให้เกิดขึ้น พัฒนากุศลธรรมที่มีอยู่&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(2) ต้องไม่ย่อหย่อนเกินไป = ไม่เกียจคร้าน&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(3) ไม่ประคับประคองเกินไป = ไม่กังวลใจ ไม่ฟุ้งซ่าน&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(4) ไม่หดหู่อยู่ในภายใน = ความง่วงซึม เหงาหงอย หดหู่ ท้อแท้&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(5) ไม่ฟุ้งซ่านออกไปในภายนอก = อย่าฟุ้งซ่านไปตามตา หู จมูก ลิ้น กาย (กามคุณ 5) เช่น อาหาร การละเล่น ชื่อเสียง การสรรเสริญเยินยอ&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(6) ให้ความสำคัญว่าเบื้องหน้าอย่างไร เบื้องหลังอย่างนั้น = ให้ทำดีอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(7) ให้ความสำคัญว่าเบื้องบนอย่างไร เบื้องล่างอย่างนั้น = ไม่ส่งจิตออกไปในภายนอกในขณะที่ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ แต่ให้ส่งจิตอยู่ในภายใน ให้จิตเจริญอยู่ในกาย เป็นการเจริญกายคตาสติ&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(8) ให้ความสำคัญว่ากลางวันอย่างไร กลางคืนอย่างนั้น = เจริญอิทธิบาท 4 โดยไม่เห็นแก่เวลาเลย&lt;/p&gt;&lt;p&gt;(9) ทำจิตให้เปิดเผย ไม่มีอะไรหุ้มห่อ = รักษาจิตใจให้มีความสว่างสดใส&lt;/p&gt;&lt;br&gt;&lt;p&gt;&lt;strong&gt;โดยสรุป:&lt;/strong&gt;&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- การเจริญอิทธิบาท 4 เป็นการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง เริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงเรื่องยิ่งใหญ่ในชีวิต&lt;/p&gt;&lt;p&gt;- การรักษาจิตให้สว่างสดใสและตั้งอิทธิบาท 4 ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อเอาจิตไปจดจ่อกับเรื่องใด ก็จะไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่ท้อถอย หากทำไปเรื่อย ๆ ก็จะได้รับความสำเร็จตลอดเส้นทาง โดยที่ความสำเร็จนั้นไม่ได้อยู่ในรูปแบบของถ้วยรางวัล แต่เป็นการชนะใจตนเองและผู้อื่น&amp;nbsp;&lt;/p&gt;&lt;hr&gt;&lt;p style='color:grey; font-size:0.75em;'&gt; Hosted on Acast. See &lt;a style='color:grey;' target='_blank' rel='noopener noreferrer' href='https://acast.com/privacy'&gt;acast.com/privacy&lt;/a&gt; for more information.&lt;/p&gt;</description>

6847-1u

ช่วงไต่ตามทาง: หมอนทองวิทยา- จากข่าวทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยา ได้มุมมอง 4 เรื่อง1. แม้ต้นทุนไม่เท่ากัน แต่ก็ประสบความสำเร็จได้ = ความเพียร ความพยายาม ความทุ่มเท ความมีระเบียบวินัยในการฝึกซ้อม ความทุ่มเทของผู้ฝึกสอน ปรากฏผลออกมาเป็นความสำเร็จ เกือบคว้าแชมป์2. ชัยชนะแห่งความสำเร็จ ได้รับทีละน้อยตั้งแต่เริ่มตื่นนอนมาเพื่อฝึกซ้อม แข่งขันในทุกนัด3. กัลยาณมิตร = เพื่อนที่นำกัลยาธรรม (ความดี) มาสู่ทีม คือ โค้ช4. นี่คือเส้นทาง ยังไม่ใช่จุดหมาย = แต่ก็ได้เรียนรู้ระหว่างการเดินทาง ถ้าออกนอกเส้นทาง ก็จะไปไม่ถึงจุดหมาย ถ้าทำตามเส้นทาง ยังไงก็ไปถึงจุดหมาย ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ: หลักธรรมสู่ความสำเร็จ1. หลักอิทธิบาท 4&nbsp;(1) ฉันทะ = ความชอบ ความพอใจ(2) วิริยะ = ความเพียร ความกล้า(3) จิตตะ = ความเอาใจใส่ ความจดจ่อ(4) วิมังสา = ความไตร่ตรอง ความใคร่ครวญ การปรับปรุงในสิ่งที่เป็นข้อผิดพลาด- เจริญข้อใดข้อหนึ่งก็ได้ แต่ถ้าครบทำได้ทั้ง 4 ข้อ จะยิ่งดี พลังจะยิ่งมาก- แต่ละข้อต้องอาศัย “สมาธิ” เป็นตัวกำกับ ทำให้เรื่องที่ตั้งไว้สำเร็จได้ 2. หลักเสริมความสำเร็จ 9 ประการ(1) ต้องมีสมาธิ = อาศัยฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา จนได้เอกัคคตาจิต จากนั้นให้ประคับประคองให้จิตตั้งไว้ให้ดีในการไม่ให้อกุศลเกิดขึ้น ทำกุศลธรรมให้เกิดขึ้น พัฒนากุศลธรรมที่มีอยู่(2) ต้องไม่ย่อหย่อนเกินไป = ไม่เกียจคร้าน(3) ไม่ประคับประคองเกินไป = ไม่กังวลใจ ไม่ฟุ้งซ่าน&nbsp;(4) ไม่หดหู่อยู่ในภายใน = ความง่วงซึม เหงาหงอย หดหู่ ท้อแท้(5) ไม่ฟุ้งซ่านออกไปในภายนอก = อย่าฟุ้งซ่านไปตามตา หู จมูก ลิ้น กาย (กามคุณ 5) เช่น อาหาร การละเล่น ชื่อเสียง การสรรเสริญเยินยอ(6) ให้ความสำคัญว่าเบื้องหน้าอย่างไร เบื้องหลังอย่างนั้น = ให้ทำดีอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง(7) ให้ความสำคัญว่าเบื้องบนอย่างไร เบื้องล่างอย่างนั้น = ไม่ส่งจิตออกไปในภายนอกในขณะที่ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ แต่ให้ส่งจิตอยู่ในภายใน ให้จิตเจริญอยู่ในกาย เป็นการเจริญกายคตาสติ&nbsp;(8) ให้ความสำคัญว่ากลางวันอย่างไร กลางคืนอย่างนั้น = เจริญอิทธิบาท 4 โดยไม่เห็นแก่เวลาเลย(9) ทำจิตให้เปิดเผย ไม่มีอะไรหุ้มห่อ = รักษาจิตใจให้มีความสว่างสดใส โดยสรุป:- การเจริญอิทธิบาท 4 เป็นการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง เริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงเรื่องยิ่งใหญ่ในชีวิต- การรักษาจิตให้สว่างสดใสและตั้งอิทธิบาท 4 ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อเอาจิตไปจดจ่อกับเรื่องใด ก็จะไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่ท้อถอย หากทำไปเรื่อย ๆ ก็จะได้รับความสำเร็จตลอดเส้นทาง โดยที่ความสำเร็จนั้นไม่ได้อยู่ในรูปแบบของถ้วยรางวัล แต่เป็นการชนะใจตนเองและผู้อื่น&nbsp;<hr> Hosted on Acast. See <a style='color:grey;' target='_blank' rel='noopener noreferrer' href='https://acast.com/privacy'>acast.com/privacy</a> for more information.

"หมอนทองวิทยา" กับ "หลักธรรมสู่ความสำเร็จ" [6847-1u]

ในวันที่รู้สึกหลงทางกับปัญหาชีวิต เครียดกับความคาดหวังในการทำงาน และความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ยุ่งเหยิง มาร่วมค้นหาคำตอบกับรายการ "สมการชีวิต" ที่จะมอบหลักธรรมะที่เข้าใจง่ายเป็นแนวทางให้กับคุณ เพื่อเปลี่ยนจากความสับสนเป็นความมุ่งมั่น เปลี่ยนใจที่ร้อนรนให้สงบเย็น ครอบครัวจะกลับมาอบอุ่น การงานจะราบรื่น และคุณจะพบสมการชีวิตที่ลงตัวและเปี่ยมสุขอย่างแท้จริง<hr> Hosted on Acast. See <a style='color:grey;' target='_blank' rel='noopener noreferrer' href='https://acast.com/privacy'>acast.com/privacy</a> for more information.

1 สมการชีวิต

Details

Recent Episodes